วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

6 เรื่อง (ควร) น่ารู้จากปากลูกค้าจ้า ภาค 2

ผ่านไป 1 ตอนแล้วสำหรับ "6 เรื่อง (ควร) น่ารู้จากปากลูกค้าจ้า" ผมทวนแบบเร็วๆว่าจากบทที่แล้ว เรารู้ว่าลูกค้าคนนี้ หรือผู้สนใจรายนี้ เป็นคนที่มีอำนาจการตัดสินใจอยู่กับตัวหรือเปล่า วันนี้มาต่อกันนะครับกับเรื่องที่ 2 ที่ควรสืบเสาะเจาะหาจากลูกค้าให้เจอ
.
.
ส่วนนี้ผมเรียกว่า Now, Next, No มากันแบบสามใบเถาตัวอักษรที่นำหน้าด้วยตัว N เลย สามศรีพี่น้องนี้สำคัญไม่แพ้กันนะครับ ผมให้คำอธิบายกันสักหน่อยก่อนที่จะงงตีลังกาเงยเงิบกันไปก่อน เริ่มจากพี่ชายคนโต N-Now ถ้าคำตอบของคนที่เราสนทนาอยู่ แล้วเรารับแอบจับได้ว่า เตรียมจะซื้อของวันนี้แหละ หรือในอีกไม่กี่นาที พร้อมจะควักบัตรเครดิตหรือเงินสดมาจ่ายแล้ว กลยุทธ์ที่ต้องรีบทำเลยคือ จับให้เจอว่าอะไรที่ผู้สนใจรายนี้ต้องการอย่างด่วนที่สุด ย้ำอีกครั้งว่าด่วนที่สุด พร้อมรวบตึงสิ่งที่คุณคุยตลอดหลายๆประโยคที่ผ่านมา ว่าอะไรคือจุดที่ลูกค้าให้ความสนใจ เช่น ราคาที่เล็งๆไว้ (ตัวเราลดราคาได้มั้ย หรือแถมอะไรเพิ่มเติมได้อีก), ต้องการสินค้าแบบไหน สีไหน ขนาดไหน แล้วของในสต๊อกสินค้าเรามีหรือเปล่า เพราะเมื่อเจอแบบนี้อย่าปล่อยให้หลุดลอยไปนะครับ ภาษานักขายก็คงต้องบอกว่า เตรียมปิดการขายให้ได้ ไม่งั้นหลุดไปงานนี้ยาวเลยครับ
.



.
.
มาถึงชายกลาง N-Next สัญลักษณ์ที่ลูกค้าจะส่งมาให้เราจากแนวนี้ เช่น พี่จะมาถามเป็นข้อมูลไว้ก่อน, โปรโมชั่นนี้มีถึงเมื่อไร, ของชิ้นนี้มีอีกเยอะหรือเปล่า, จะมาถามให้ญาติสนิทเพื่อนมากมายอะไรก็ว่ากันไป หลายๆคนคงคิดในใจว่า เจอวลีแนวนี้ทีไรลูกค้า มาถามไปอย่างงั้นแหละ ไม่ซื้อหรอก มาหลอกให้ตายใจ ผมเข้าใจในมุมที่คุณคิดอยู่ครับ แต่ในลูกค้าหลายๆคน อาจจะตั้งใจมาถามแบบนั้นจริงๆ เพราะวันนี้ตัวเขาไม่พร้อมจะซื้อ ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง แต่สนใจของคุณอย่างถวิลหาแล้ว ลองทำแบบนี้ดูซิครับ ขอเบอร์มือถือ / อีเมล / LINE หรืออะไรสักอย่างที่ทำให้คุณติดต่อเขาได้อีก หลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่คุณเองแล้วที่ต้องจับสังเกตต่อไปว่า คนนี้พูดลอยๆ, กำลังรอซื้อจริงๆ, อยู่ใช่วงตตัดสินใจอยู่ หรือแม้แต่เทียบเรากับคู่แข่งก็เป็นได้นั่นเอง
.
.
น้องสุดท้อง N-No เจอคำว่า No ผมว่าหลายคนก็ขวัญหนีดีฝ่อไปแล้ว อย่าเพิ่งวิ่งจากกันไปแบบไม่ได้อะไรกลับมา เพราะคนที่ Say No โบว์ใหญ่กับเรา ก็มีค่านะขอรับ ทำไมล่ะ??? คุณไม่เอะใจหน่อยครับว่า ลูกค้ามาสนทนาถามไปอันนี้ที อันนั้นที อันโน้นที แล้วก็เดินสะบัดบ็อบจากเราไปเลย วันนี้ผมคิดวว่ากรณีแบบนี้ต้องหาข้อมูลแบบลงลึกให้เจอว่าเกิดอะไรขึ้น แน่นอนครับเวลานี้ลูกค้าจากเราไปแล้ว ลองเปลี่ยนวิธีดูเป็นส่งอีเมลไปสอบถามการบริการของพนักงานขายวันนี้ หรือให้ Call Center ติดต่อไปเพื่อถามว่าวันนี้มาเยี่ยมชมร้านเป็นอยย่างไรบ้าง มีอะไรอยากให้ปรับปรุง คำถามพวกนี้แม้ไม่ได้ถามตรงๆว่า ไม่ซื้อฉันเพราะอะไร แต่เราก็เอามาดูการวิเคราะห์ได้เหมือนกัน แล้วนำจุดเหล่านี้ไปลองหาทางออก ดูว่าแก้ไขอะไรได้บ้างหรือเปล่านั่นเองครับ
.
.
เห็นมั้ยครับว่า ทุกคำตอบของลูกค้ามีคุณค่ากับเราเสมอ อยู่ที่เรามองและจะใช้อย่างไรนั่นเอง ครั้งถัดไปจะเป็นส่วนที่ 3 สำหรับการค้นหาข้อมูลดีดีจากคนที่เรากำลังเจรจากันอยู่ ว่าจะเป็นประเด็นไหน เรื่องอะไร ต้องติดตามกันต่อ ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น