วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2559

รู้ 3 ข้อนี้ก่อน ค่อยเปิดขายของออนไลน์

ในปี 2016 ขณะนี้กระแสสุดล้ำที่ทำกันอย่างแพร่หลายคงหนีไม่พ้น Online Shopping (การซื้อขายสินค้ากันบนออนไลน์) แน่นอนครับ ผมขอฟันธง!!! แต่แล้วเจ้า Online Shopping ที่ใครๆก็พูด ใครๆก็ทำเนี่ย ทั้งที่ไม่ต้องมีหน้าร้านจริงๆ ก็ขายได้ มันคืออะไร ยังไง ไฉนฮิเนี่ย เคยสงสัยกันบ้างมั้ยครับ งั้นวันนี้ผมพามาเจาะลึกให้รู้จักการซื้อขายของกันบนโลกออนไลน์กันดีกว่าครับ


งั้นคุณต้องรู้ก่อนว่าองค์ประกอบสำคัญของการทำ Online Shopping เนี่ยกับการเปิดร้านค้าทั่วไปตามห้างสรรพสินค้า, ตลาดนัดหรือทำเลต่างๆ มีส่วนที่เหมือนกันอยู่ 3 มุมมอง ได้แก่ 

มุมแรก "จะขายอะไรดี???" = อะไรฮิต อะไรโดน สิ่งไหนน่าสนใจ (Online Trend)


มุมที่สอง "จะเปิดร้านที่ไหน???" = สถานที่ปล่อยของของคุณนั่นเอง (Online Marketplace)

มุมที่สาม "คนจะเห็นได้ยังไง???" = การทำการตลาดให้คนรู้จัก (Online Marketing)



มาเริ่มจากข้อแรกกันก่อน เราจะหาอะไรมาขายดีล่ะ หลายคนมีไอเดียแล้วบ้าง บางคนก็อาจจะกำลังคลำทางหาแนวที่ตัวเองชอบอยู่ ผมขอยกตัวอย่าง 5 รูปแบบสินค้าที่น่าสนใจ จากเว็บไซด์ของ www.dbdmart.com มาฝากกัน มาดูกันว่าของเหล่านี้น่าจะเปิดไอเดียในการหาของมาขายะไรกันได้บ้างนะครับ


1. สินค้าเฉพาะกลุ่ม หรือกลุ่มที่เรียกว่า “Niche Market” เช่น สินค้าสำหรับคนท้อง สินค้าสำหรับคนอ้วน สินค้าสำหรับแต่งตัวเลียนแบบตัวการ์ตูน (Cosplay) เป็นต้น จะทำให้เจาะจงและเข้าถึงลูกค้าเฉพาะกลุ่มได้ไม่ยาก เพราะหากสามารถจับและเข้าถึง กลุ่มลูกค้านี้ได้แล้วลูกค้าจะจดจำร้านของคุณได้ ทำให้โอกาสในการขายมีมากกว่าและจะมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องได้

2. สินค้าที่คนเราอายที่จะไปซื้อ มีสินค้าบางชนิดที่ลูกค้าไม่กล้าไปซื้อที่หน้าร้าน เพราะอาจจะเขินอายหน้าแดงตัวแดง หรือไม่ต้องการเปิดเผย สินค้าที่มีลักษณะนี้ เช่น สินค้าเกี่ยวกับเรื่องเพศ ชุดชั้นในเซ็กซี่ ชุดเซ็กซี่ ถุงยางอนามัย

3. สินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นสินค้าที่มีความแตกต่าง ไม่เหมือนร้านอื่น ลูกค้าจะต้องมาซื้อที่ร้านของคุณเท่านั้น เช่น เสื้อผ้าที่มีลวดลายเฉพาะ สินค้าทำมืออย่างตุ๊กตาไหมพรม อย่างไรก็ตามจะต้องสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่า สินค้าเป็นของดีมีคุณภาพ ลูกค้ามักจะไม่รู้จักมาก่อน ต้องใช้เวลาในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าอยู่พอสมควร ลงรูปสินค้าในทุกมุม อธิบายรายละเอียดให้ครบถ้วน  จุดเด่นของสินค้า หรือการดูแลรักษา จะช่วยให้น่าเชื่อถือ และตัดสินใจซื้อได้ไม่ยาก



ผ่านไป 3 ข้อแล้ว บางคนอาจจะยังคิดไม่ออกหรือเปล่าครับ ผมยังมีอีก 2 แนวทางมานำเสนอคุณกัน มาดูกันดีกว่าว่าคืออะไร

4. สินค้าที่ไม่ค่อยนิยม มีเรื่องราวน่าสนใจ แนวผลิตจำกัด (Limited Edition) หรือหายากมากๆ (Rare Item) เช่น เทปเพลงเก่า, แผ่นเสียงเพลงเก่า, รูปปั้นแบบโบราณ, โคมไฟทรงโบราณ, ของสะสมบางอย่างที่ผลิตมาเพียง 500 ชิ้นบนโลก เป็นต้น มองว่าสินค้าเหล่านี้ไม่น่าจะขายได้ ซึ่งเป็นเหตุให้สินค้าเหล่านี้ไม่มี การแข่งขัน หรือคู่แข่งขันน้อย หากลองนำมาขาย ก็อาจทำให้ลูกค้าจดจำเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ของคุณ ที่ขายของแบบนี้

5. สินค้าแนว D.I.Y. (Do It Yourself) หลายๆ คนชอบซื้อสินค้าประเภทที่ซื้อไปทำต่อเองได้ อยากลงมือสร้างขึ้นมา อาทิ ชุดทำอาหารง่ายๆ ที่บ้านคุณ ชุดถักโครเชต์พร้อมวิธีการถักที่คุณสามารถถักเป็นตุ๊กตาน่ารักๆได้เอง ชุดเก้าอี้ที่เอาไปประกอบเองได้โดยไม่ต้องตอกตะปู ชุดแปลงปลูกต้นไม้ขนาดเล็กบนคอนโดของคุณ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ก็อาจจะทำให้ร้านของคุณน่าสนใจได้ และอาจจะมีวิธีเล่าเรื่องผ่าน Clip การ D.I.Y. จากคุรเองในฐานะเจ้าของร้านก็ได้นะครับ

ไม่ว่าคุณจะเลือกสินค้ากลุ่มไหนเป็นสิ่งที่คุณอยากจะขายก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ต้องใส่ใจเสมอคือ การให้บริการที่จริงใจ และไม่โกหก หรือหลอกลวงผู้บริโภคของคุณนะครับ มิฉะนั้นแล้ว ร้านค้าของคุณจะย่อยสลายปิดตัวด้วยตนเอง ในระยะเวลาที่ไม่นานแน่นอน เพราะบนโลก Online ทุกอย่างที่แพร่กระจาย และส่งต่อกันได้รวดเร็วมากๆ นะครับ 


วันนี้ผมให้ข้อมูลจากส่วนแรกกันก่อนนะครับ พรุ่งนี้มาติดตามกันต่อกับส่วนที่ 2 กันว่าแล้วมีของในมือแล้วจะไปปล่อยของประลองยุทธกันที่ไหนดี ขออนุญาตผู้อ่านทุกคนด้วยนะครับ ขอแตกเป็น 3 ตอนย่อยแบบหนังไตรภาคจริงๆ เพราะว่าถ้าจับมารวบตึงกันในตอนเดียว เกรงว่าคุณผู้อ่านจะกระอักเลือดออกมาได้ครับ ยังไงแล้วพรุ่งนี้มาตามกันต่อนะครับ และขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมาด้วยครับ

ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก Google ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น