วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ทำให้ดี ทำให้ไว ถ้าทำได้ ลูกค้าวางใจ!!!

มาดูกันว่าเราจะดำเนินการให้ลูกค้าไว้วางใจได้อย่างไร ด้วย 5 แนวทางที่ผมลองรวบรวมมาฝากคุณๆกันในค่ำคืนนี้ โดยผมเลือกไอเดียต่างๆมาจากการแตกตัวอักษร จากคำว่า "TRUST" ที่แปลว่าไว้วางใจนั่นเอง

เอาหละครับเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ได้เวลามาเริ่มดูว่า ต้องทำอะไรกันบ้าง เพื่อทำให้ลูกค้าสนิทใจกับธุรกิจของคุณได้



ตัวอักษรแรก ตัว T หรือคำว่า Time "คุ้มค่าทุกนาที ดูทีวีสีช่องสาม" วลีที่เป็นสโลแกนของโทรทัศน์ช่องดัง ทุกวินาที ทุกนาที ทุกชั่วโมง หรือทุกวันของลูกค้ามีความสำคัญเสมอ บางครั้งสัญญาว่าจะจัดการปัญหาให้ลูกค้าเสร็จภายในกี่วัน หรือนานกี่ชั่วโมงจะแก้ไขให้ ก็ต้องทำให้ได้ตามช่วงเวลาที่ได้แจ้งไว้ อย่าลืม!!! ว่าในมุมของลูกค้า ถ้าตัวลูกค้าเดือดเนื้อร้อนใจอยู่ ทุกเวลาที่เดินผ่านไปมีความสำคัญเสมอ ฉะนั้นอย่าไปเวลาลอยนวลนะครับ

ตัวต่อมา คือ R ซึ่งผมคิดว่าเป็นคำว่า Reason เหตุผลเป็นสิ่งที่ต้องใช้ในการตัดสินใจหลายๆอย่าง หรือแม้แต่การดูแลบริการลูกค้า เหตุผลยังคงเป็นหนึ่งในสิ่งที่คุณไม่ควรมองเลยผ่านไป บางครั้งในสถานการณ์จริง อาจจะมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง บางทีอารมณ์ลูกค้าคุณคงไปจัดการโดยตรงไม่ได้ทั้งหมด แต่ถ้าเราเอาเหตุผลหรือหลักการตามกติกามารยาท ลองคุยกับลูกค้าดู ผมเชื่อว่าทุกๆอย่างก็น่าจะเบาลง หาทางออกกันได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องระมัดระวังคือ การทำอะไรพิเศษให้ลูกค้าบางคนเป็นกรณีพิเศษไป ที่อยู่นอกเหนือเหตุและผล พอเกิดเรื่องขึ้นแบบนี้ ผมว่าเหตุผลอาจจะเอาไม่อยู่แว้ว ต้องเตือนกันไว้ก่อนนะเด้อ

มาถึงไอเดียที่สาม ครึ่งทางแล้ว คือ U หรือ Understanding ความเข้าใจลูกค้าว่าลูกค้ามีความต้องการอะไรบ้าง นอกจากแค่เข้าใจเรื่องความต้องการแล้ว อาจจะต้องเข้าใจตั้งแต่กระบวนการเข้ามาเจอเรา ว่าลูกค้าเริ่มต้นจากตรงไหน จุดประสงค์คืออะไร อะไรที่เป็นสิ่งที่ลูกค้าตัดสินใจ ในมุมของลูกค้าคงต้องการคนเข้าใจเขา ประมาณเอาใจเขา มาใส่ใจเรา ถ้าเรากระโดดเข้าไปนั่งในใจลูกค้าได้ คุยกันเหมือนเพื่อนด้วยภาษาแนวเดียวกันได้ แบบนี้คุณจะคุยกับลูกค้าได้เป๊ะเว่อร์

อ่านมาถึงตรงนี้มาถึงไอเดียเกือบสุดท้ายแล้ว อย่าเพิ่งเหนื่อยกันไปก่อนนะครับ...

ตัวอักษรที่ 4 คือ S = Stability เมื่อเริ่มทำอะไรแล้ว ทุกอย่างเหมือนเริ่มวิ่ง หลังจากกรรมการปล่อยตัวจากจุด Start แล้ว นั่นคือสิ่งที่ลูกค้าจดจำได้แล้วเช่นกัน ฉะนั้นไม่ใช่ทำครั้งเดียวแล้วตีจากหายไป แบบนี้ไม่คงเส้นคงวา ลูกค้างงแล้วอาจไม่ปลื้มตามมาได้ วันนี้มาตราฐานการดูแลต่างไปจากเดิม ถ้าเปลี่ยนแล้วดีขึ้นเรื่อยๆ อันนี้พอไปต่อกันได้ แต่ถ้าตีลังกากลับด้านกัน ยิ่งทำยิ่งดิ่งลงต่อไป งานนี้ลูกค้าอาจเบือนหน้าสะบัดบ็อบจากไปได้นะครับ ดังนั้นวางรูปแบบการจัดการให้เป้นแนวทางมาตราฐานให้ได้มากที่สุดครับ

สุดท้ายท้ายสุด คือ T ที่ย่อมาจาก Take me home ไอเดียสุดท้ายนี้ คหสต. ผมชอบมาก เพราะเราทำให้ลูกค้าไว้ใจได้แล้ว ถ้าลูกค้าเอาความไว้วางใจนี้ติดตัวติดใจกลับบ้านไปด้วย คุณคิดว่าจะดีขนาดไหน ประมาณว่าห่อกลับบ้านแล้วเอาไปกินอิ่มยิ้มปริมต่อได้ ผมว่ามันจะสุดยอดมาก ลองคิดภาพตามนะครับ ลูกค้าวางใจจนพาเรื่องดีดีของเรากลับไปบ้านด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นผมว่าลูกค้าคงไม่เก็บเรื่องดีดีไว้เท่านี้แน่ๆ การบอกต่อเรื่องดีดีของเราถูกส่งต่อได้ โดยไม่ต้องเสียสตางค์สักนิดเลยนะครับ วิธีนี้ดีสุดๆ แต่ในทางกลับกัน ลูกค้าถ้าไม่ปลื้ม แล้วเอาเรื่องไม่ค่อยดีกลับไป ก็ถูกนำไปเป่าประกาศแบบไม่เสียเงินเลยสักหน่อยเช่นเดียวกัน

ผ่านไปแล้วสำหรับ 5 ไอเดียที่ผมนำมาบอกต่อๆกัน อาจจะมีวิธีอื่นๆ เพิ่มเติมที่ทำให้ลูกค้าวางใจได้อีก ชาวเพจการตลาด3ช่ามีอะไรแนะนำ หรือมีประสบการณ์แนวไหนมาแบ่งปันกันได้นะครับ จะได้ให้เพื่อนๆที่กำลังบริหารจัดการเรื่องนี้อยู่ ได้ไอเดียใหม่ไปลองใช้กันดูเช่นกันครับ ^_^

ขอบคุณรูปประกอบจาก Google นะครับ #marketingchachacha #การตลาด3ช่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น