วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

วาดรูปจนได้เรื่อง!!!

วาดรูปจนได้เรื่อง ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เป็นความจริงของหญิงสาว 2 คน ที่ค้นพบว่าภาพวาดของเธอนั้นมีคุณค่าทางใจมากกว่าสายตามองเห็น
สาลินี รัตนชัยสิทธิ์ นักวาดภาพประกอบอิสระ ในนามของ CyranoDesign
กว่าจะมาเป็น คุณสา ที่มีคนมาเข้าคิวจองให้เธอวาดรูปเหมือนบนเคสโทรศัพท์มือถือและผ้าพันคอ ซึ่งเปิดรับคิวปีละ 2 ครั้งทางอินสตราแกรม Cyrano Design (เดิมใช้ชื่อว่า Cyrano de Salinian)
สาเล่าว่าชอบวาดรูปมาตั้งแต่เด็กๆ วาดมาเรื่อยๆไม่ได้คิดว่าจะเรียนต่อหรือทำงานทางด้านศิลปะแต่อย่างใด เพราะชื่นชอบการแสดงมากกว่า ครั้นได้เข้ามาเรียนที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทำให้ได้ใช้ฝีมือในการออกแบบฉากบ้างตามสมควร
“ตอนเรียนอยู่ปี 3ไปทำงานองค์การนักศึกษา มีโอกาสไป 3 จังหวัดชายแดน ตอนนั้นรู้สึกว่าอยากทำงานเป็นปากเป็นเสียงให้กับสังคมพอดีกับอ่านจากหนังสือพิมพ์ว่ารายการตาสว่าง ของพี่ดู๋ (สัญญา คุณากร) เปิดรับคน เลยเข้าไปสมัครและได้ทำงานที่รายการตาสว่าง ตอนนั้นรู้แค่ว่าเราจะได้นำเรื่องราวในสังคมมาบอกเล่ากับผู้คน พอเข้าไปทำจริงต้องมีความบันเทิงเข้ามาด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเรียนมาพอดี แม้ไม่ได้เรียนมาโดยตรง
ทำงานเป็นครีเอทีฟรายการตาสว่าง จนรายการปิดตัวลง ย้ายมาเป็นครีเอทีฟรายการที่นี่หมอชิต ระหว่างนั้นก็วาดภาพ ประดิษฐ์ของเล่นให้เป็นของขวัญวันเกิดอยู่เรื่อยๆ จนมีอินสตราแกรม โพสต์ภาพวาดลงไป มีคนมากดไลค์ แรกๆเป็นเพื่อน เป็นญาติกันเอง ต่อมากลายเป็นมีคนไม่รู้จักมากดไลค์เรื่อยๆ เวลาเราโพสต์ไปก็ทำให้มีคนรู้จักลายเส้นของเรามากขึ้น”
จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อสาวาดรูปเหมือนให้กับ นุ่น - วรนุช ภิรมย์ภักดี
“พอคนเห็นผลงานของเราผ่านไอจีพี่นุ่นเขาก็เริ่มมาตามไอจีเรา ต้องขอบคุณพี่นุ่นด้วย ตอนนั้นไม่ได้คิดอยากทำอะไร แค่ชอบวาดรูปต่อไปเรื่อยๆ ช่วงนั้นเริ่มใช้ไอโฟน ต้องหาเคส ใช้อะไรดี ไม่อยากเหมือนใคร วาดรูปใส่กระดาษ ซื้อเคสใสหน้าตึกแกรมมี่เอามาแปะกัน ตอนนั้นทำให้พี่นุ่นด้วยเพราะว่าเราเคยวาดรูปพี่นุ่นแล้ว ลองทำเคสเป็นรูปพี่นุ่นเลยดีกว่า ปรากฏว่าเขาชอบมาก ถ่ายรูปไปลงไอจีอีก คราวนี้มีคนชอบถามมาเรื่อยๆ เพื่อนๆก็เชียร์ว่าให้ทำเป็นงานอดิเรก หนูก็โอเค รับวาดแต่ว่ารับจำนวนจำกัดเท่านั้นนะคะ
หนูบอกว่าหนูทำงานประจำนะ กติกาของหนู บอกว่าวันนี้เปิดรับจอง บอกล่วงหน้าทางไอจีหนึ่งวันว่าพรุ่งนี้จะเปิดรับจองนะ ประมาณ 50 คิว มาลงชื่อ เต็มแล้วจะปิดรับ จะทำตามลำดับคิว ต้องเป็นลูกค้าที่รอได้นะเพราะว่าเราไม่ได้มีเวลาวาดตลอด พอเราเปิดรับ คนมาจองครบ ก็จะบอกว่า รบกวนรอปีหน้า ลูกค้าที่ไม่ทันก็บ่นว่าอยากได้ๆ แต่ก็รอปีหน้าทำไปทีละคิว คนสุดท้ายรอหกเดือน”
จากวาดรูปใส่กระดาษแปะกับเคสพลาสติกใส สาติดต่อซัพพลายเออร์พิมพ์ภาพที่เธอวาดลงในเคสโทรศัพท์อย่างดี ในราคาเริ่มต้น 1,850 บาท สำหรับเคสโทรศัพท์หนึ่งเดียวในโลกที่ไม่เหมือนใครและที่สำคัญเป็นรูปวาดของคุณที่มีสไตล์ชวนมอง
เมื่อมีเคสโทรศัพท์แล้ว สาวๆก็อยากจะมีผ้าพันคอเป็นของตัวเองด้วยเช่นกัน คราวนี้งานอดิเรกชักเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับเมื่อมีคนเห็นลายเส้นของเธอมากขึ้นก็ชวนไปวาดรูปผนังรีสอร์ท และร้านอาหารหลายๆแห่ง
จนมาถึงวันที่เธอคิดว่าคงต้องลาออกจากงานประจำ มาทำงานอดิเรกอย่างจริงจัง พร้อมกับพัฒนาผลงานศิลปะด้วยการสร้างแบรนด์ เดิมใช้นามปากกาบนภาพว่า Cyrano de Salinian ซึ่งหลายคนบอกว่าอ่านยาก สมัครใจเรียกเคสคุณสามากกว่า มาปรับเป็น Cyrano Design สร้างสรรค์เคสลวดลายในสไตล์ของเธอออกมาเป็นเคสโทรศัพท์ ผ้าพันคอ เข็มกลัด หมอนอิง และกระเป๋าผ้า โดยมีช่องทางขายหลักทางไอจี Cyrano Design “วาดรูปไปเรื่อยๆ บางครั้งเคยคิดจะเลิกรับวาดเฉพาะส่วนบุคคล เพราะพอมาทำงานจริงจังบางครั้งเราก็เหนื่อยบ้าง เครียดบ้าง แต่พอได้รับฟีดแบ็คจากลูกค้า ภาพที่เราวาดไปเป็นภาพที่มีความหมายสำหรับเขา เป็นของขวัญชิ้นพิเศษที่ทำให้เฉพาะคนๆนั้น เราก็รู้สึกปลื้มมาก
มีลูกค้ารายหนึ่งเป็นเป็นตำรวจอยากทำผ้าพันคอให้แฟน ทีแรกต้องส่งไปสมุย วันนึงเขามาบอกว่าไม่ต้องส่งไปสมุยแล้ว เพราะว่าแฟนขึ้นมาผ่าตัดที่กรุงเทพฯ คือไม่ได้ร้ายแรง แต่กลายเป็นว่าเขาจะต้องมาเลี้ยงฉลองวันครบรอบแต่งงานที่โรงพยาบาลแทน
วันนั้นคุณตำรวจพาวงดนตรีเล็กๆที่เคยไปเล่นงานแต่งงานมาบรรเลงในโรงพยาบาล มีของขวัญเป็นผ้าพันคอที่สาวทำวางอยู่บนเตียง บางทีเราคิดว่าเราแค่วาดรูปให้เขา มันเป็นของสำคัญสำหรับเขา
บางครั้งเราคิดว่าเป็นงานวาดรูปที่ทำไปเรื่อยๆ แต่งานของเราทุกชิ้นมันมีความหมายสำหรับเขามาก ได้เห็นสิ่งที่คุณตำรวจคนนี้ทำให้ภรรยาได้เห็นภาพและข้อความที่เขาพิมพ์บอกเรามายิ่งทำให้เรารู้สึกว่าถ้าเราหยุดรับคงไม่ได้ ในเมื่องานของเรามีความหมายต่อผู้อื่น เราจงทำต่อไป” สาลินี ตอบด้วยน้ำเสียงร่าเริง
ได้วาดรูปที่ชอบถือเป็นความสุขแล้ว แต่เห็นคนชอบรูปที่เราวาดนั้นความสุขคูณสองขึ้นมาทันใด
ส่วนใครที่ชื่นชอบลายเส้นของสา ติดตามผลงานของเธอได้ทาง www.facebook.com/cyranodesalinianART และ IG: www.instagram.com/cyranodesalinian
ทรัพย์มณี ชัยแสนสุข เจ้าของนิทรรศการภาพเขียนสีน้ำ A Little More
ชวนคุณไปสำรวจความงดงามของสิ่งเล็กๆรอบตัวเรา
ทรัพย์มณี หรือ ตุ่ย เป็นสถาปนิกชุมชนที่พี่ๆในกลุ่มบางกอก สเก็ตเชอร์ กล่าวขานเธอว่า ชอบเขียนรูปอย่างบ้างคลั่ง ถึงขนาดที่ว่าตอนป่วยเกือบจะเป็นมะเร็ง มีคนถามว่าอยากจะทำอะไรมากที่สุด ตุ่ยบอกว่า “จะวาดรูป”
หลังจากพักฟื้นหลังการผ่าตัด และทราบข่าวดีว่าไม่ได้เป็นโรคร้าย ตุ่ยก็ยังคงระบายสีน้ำอย่างบ้าคลั่งต่อไป
เรื่องเล่าขานนี้เป็นความจริงหรือไม่ เจ้าตัวตอบยิ้มๆว่า “ค่ะ”
“วาดรูปตั้งแต่ปี 2552 ตอนนั้นป่วยด้วยโรคกระดูก ไปผ่าตัด กลัวว่าจะเป็นมะเร็ง ทำให้เริ่มหาว่าอยากจะทำอะไร ระหว่างรอผลตรวจก็เครียด กังวล ระหว่างพักฟื้นก็เอาพู่กันกับสีน้ำที่มีอยู่มานั่งวาด พอวาดแล้วเริ่มรู้สึกดี เริ่มสนุก ทำให้วาดไปเรื่อยๆ
ผลตรวจปรากฏว่าไม่ได้เป็นอะไรก็โอเค วาดรูปต่อ คือ ชอบวาดรูปมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว ใช้สีน้ำ จนมาถึงมัธยม พอมาเรียนสถาปัตย์ที่ธรรมศาสตร์ไม่ค่อยได้วาด ไม่ค่อยมีเวลา อย่างมากก็ไปสเก็ตช์รูปแต่ไม่ได้ลงสีจริงจัง พอเรากลับไปทำรู้สึกสนุก เหมือนเป็นสิ่งที่เราอยู่กับมัน ใช้เวลาอยู่กับสิ่งที่ชอบ ค้นหาไปเรื่อยๆ ตอนนั้นวาดเยอะมาก
เห็นอะไรก็วาด เป็นภาพวิวที่เคยไปเที่ยวมา ถ่ายรูปเก็บไว้แล้ววาดจากรูปถ่าย ต่อมาได้เจอกับกลุ่มบางกอก สเก็ตเชอร์ พี่อัศนีหัวหน้ากลุ่มชวนไปสเก็ตช์รูป พอไปแล้วทำให้เราไม่กลัวการสเก็ตช์รูป ปกติเราจะวาดอยู่ในมุมตัวเอง สวยไม่สวยดูคนเดียว
วาดสบายๆขึ้น ปกติเราชอบคิดว่าเราวาดสวยหรือไม่สวย พอเราไปสเก็ตช์กับทางกลุ่ม เหมือนเป็นการเพิ่มทักษะในการมอง นำสิ่งที่เห็นมาวาดเป็นภาพ ได้ทักษะ ได้แลกเปลี่ยนความคิดกับเพื่อนในกลุ่ม”
ตุ่ย ใช้เวลาหลังเลิกงานวาดรูปสีน้ำอยู่ที่บ้านจนดึกเป็นอย่างนี้ทุกวัน แทบไม่ยอมนอน
“ใช่ค่ะ เหมือนเราเจอสิ่งที่เราชอบ ทำอยู่อย่างนั้นไม่รู้สึกเหนื่อยเลย เหมือนเรากับสีน้ำทำงานร่วมกัน เหมือนสีน้ำเป็นเพื่อนเรา เหมือนเราคุยกันว่า สมมติว่าเราลงมีแบบนี้แล้วจะเกิดเอฟเฟคอะไรขึ้นมา มันก็ขึ้นมาให้เห็น โอเค งั้นเราจะลองจินตนาการกับเอฟเฟคที่เกิดขึ้นเหล่านี้นะ
ช่วงแรกๆวาดทุกวัน หลังเลิกงาน มีเวลาว่างวาด นอนดึก เหมือนเราได้อยู่กับตัวเอง มีสมาธิ เหมือนอยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า”
นิทรรศการแสดงภาพเขียนสีน้ำครั้งแรกของตุ่ย เกิดขึ้นในอีก 3 ปี ถัดมา ที่แคสเซีย คาเฟ่และทีรูม สุขุมวิท 31
“ช่วงนั้นเป็นภาพวาดแนวเหมือนจริง วาดวิวที่เราเคยไปเที่ยว สถานที่ต่างๆที่เราเคยไปสเก็ตช์ ได้รับการตอบรับดี คนชอบ ส่วนตัวเราเองได้เห็นอะไรบางอย่างที่รู้สึกว่าเฉพาะทางมากขึ้น บางรูปที่เรารู้สึกว่าอยากพัฒนาต่อยอดขึ้นไปอีก
จากนิทรรศการครั้งแรกมาถึงครั้งที่สองเราเริ่มตั้งคำถามกับตัวเอง พยายามถ่ายทอดสิ่งที่เราเห็นออกมาเป็นภาพ อารมณ์คล้ายกับภาพถ่ายที่เราใส่ความรู้สึกตัวเองลงไปด้วย ถามตัวเองว่าเราสามารถคิดได้มากกว่าสิ่งที่เห็นหรือเปล่า
เช่น ถ้าเรามองเห็นรังนกแล้วจะเป็นอะไรขึ้นมา ตอนนั้นไม่ค่อยมีจินตนาการมากมาย เพียงแต่อยากรู้ว่าเราจะทำได้หรือเปล่า เลยใช้วิธีมองสิ่งรอบตัวแล้วจินตนาการลงไปว่าจะเป็นอะไรได้บ้าง ทำให้ออกมาเป็นแนวที่หนีออกมาจากความจริง เก็บข้อมูลจากธรรมชาติแล้วใช้สมองกลั่นกรองออกมา ว่าเราคิดออกมาอย่างไรในภาพนั้นๆ
แต่ภาพในสมอง ไม่ได้ชัดเป๊ะๆ แต่พอมาวาดลงในกระดาษเราก็ต่อยอดไปอีก ใช้วิธีคิดอย่างนี้ต่อมาเรื่อยๆจนถึงนิทรรศการครั้งที่ 5 ที่นี้ คิดถึงชีวิตเล็กๆ เช่นใบไม้ทับถมกัน รากไม้ เป็นการนำแพทเทิร์นของธรรมชาติมาใช้
ชอบไปถ่ายรูปต้นหญ้า ต้นไม้เล็กๆ ชอบงานที่เป็นการซ้อนทับกัน ทำให้ดูลึกลับ เป็นชื่อมาของ A Little More เราสะสมสิ่งที่เราเห็น”
ความสำคัญของการวาดรูป คือ การไม่กลัวที่จะวาด ทุกวันนี้ตุ่ยยังคงท่องไปในโลกสีน้ำ สนทนากับเพื่อนสีน้ำพร้อมทดลองเอฟเฟคไปด้วยกันยามว่าง แม้จะไม่ได้วาดรูปอย่างบ้าคลั่งเหมือนเดิม
แต่เธอได้พบแล้วว่าความสุขของเธออยู่ตรงไหน แล้วเธอก็พร้อมจะเติบโตไปพร้อมกับสีน้ำ เพื่อนร่วมทางที่น่าค้นหาต่อไป
พบกับนิทรรศการ A Little More ได้ที่แคสเซีย คาเฟ่ และ ทีรูม สุขุมวิท 31 ระหว่างวันที่ 13 กุมภาพันธ์ – 19 มีนาคม 2559 และผลงานสีน้ำของตุ่ยได้ที่ www.facebook.com/SupmaneeC
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/684861

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น